Loading...

Loading
รับฝากขายบ้าน : บ้านมือสอง

วางแผนค่าใช้จ่าย ดูแลพ่อแม่ยามชราตั้งแต่วันนี้ ก็มีแต่เรื่องดี ๆ ในวันหน้า...

03 ตุลาคม 2568

การดูแลพ่อแม่ยามชราเป็นหน้าที่ที่เต็มไปด้วยความรักและความกตัญญู แต่สิ่งที่หลายครอบครัวอาจเผชิญคือ “ภาระค่าใช้จ่าย” ที่สูงขึ้นตามอายุ สุขภาพ และค่าครองชีพ หากเราเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้ ย่อมช่วยลดความกังวลและทำให้พ่อแม่ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีคุณภาพมากขึ้น

1. ค่าใช้จ่ายหลักที่ควรเตรียม
ข้อมูลจาก Southeast Insurance, Chubb, SET InvestNow เสนอไว้ว่าค่าใช้จ่ายของผู้สูงอายุสามารถแบ่งเป็นหมวดใหญ่ ๆ ดังนี้
ค่าใช้จ่ายประจำวัน เช่น อาหาร ค่าไฟ ค่าน้ำ ประมาณ 5,000 - 10,000 บาทต่อเดือน ขึ้นกับวิถีชีวิต
ค่าที่อยู่อาศัย หากผ่อนบ้านหมดแล้วก็อาจเหลือแค่ค่าดูแล แต่ถ้าเช่าบ้านหรืออยู่คอนโด อาจเพิ่มเป็น 7,000 - 15,000 บาทต่อเดือน
ค่ารักษาพยาบาลและสุขภาพ ถือเป็นหมวดที่สำคัญที่สุด ผู้สูงอายุมักใช้จ่ายสูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ค่ายา 2,000 - 5,000 บาทต่อเดือน, ค่าตรวจสุขภาพปีละ 10,000 - 20,000 บาท, กรณีเจ็บป่วยรุนแรงอาจแตะหลักแสนบาทต่อครั้ง
ค่าใช้จ่ายเพื่อคุณภาพชีวิต เช่น การเดินทาง ท่องเที่ยว งานอดิเรก เพื่อให้จิตใจสดใส อาจตั้งงบเพิ่มเดือนละ 2,000 - 5,000 บาท
ค่าดูแลระยะยาว (Long-term care) หากพ่อแม่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อาจต้องมีผู้ช่วยดูแล ซึ่งปัจจุบันค่าใช้จ่ายอยู่ราว 15,000 -25,000 บาทต่อเดือน ซึ่งนั่นหมายความว่าโดยเฉลี่ย ผู้สูงอายุอาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 - 40,000 บาทต่อเดือน (ไม่รวมค่ารักษาโรคอื่น ๆ)

2. วิธีคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ
Chubb ให้ความเห็นว่าช่วงชีวิตหลังเกษียณ ค่าใช้จ่ายของแต่ละบุคคลอาจอยู่ที่ 70% ของค่าใช้จ่ายก่อนเกษียณ เช่น หากตอนนี้ครอบครัวใช้จ่ายเดือนละ 50,000 บาท หลังเกษียณอาจอยู่ที่ 35,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ยังควรเผื่อ เงินเฟ้อสมมติอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 3% ต่อปี หากอีก 20 ปีข้างหน้าจะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 1.8 เท่า
หรือใช้สูตรง่าย ๆ
ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ = (ค่าใช้จ่ายปัจจุบัน × 70%) × (1+อัตราเงินเฟ้อ)^จำนวนปี

3. วางแผนการเงิน ยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งได้เปรียบ
การวางแผนการเงินเพื่อดูแลผู้สูงอายุไม่ควรเริ่มเมื่อถึงเวลาใกล้เกษียณ แต่ควรเริ่มตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งมีเวลาเก็บออมและลงทุนมากขึ้น ขั้นแรกควรสำรวจรายได้และค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะมี ไม่ว่าจะเป็นเงินออมที่สะสมไว้ เบี้ยบำนาญ หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จากนั้นคำนวณว่าต้องการใช้จ่ายเท่าไรและยังขาดอยู่แค่ไหน เพื่อใช้เป็นเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน

เมื่อมีเป้าหมายแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการจัดการลงทุนให้เหมาะกับช่วงอายุ หากอยู่ในช่วงอายุ 30–40 ปี สามารถลงทุนในหุ้นหรือกองทุนผสมที่มีความเสี่ยงมากกว่าเพื่อสร้างการเติบโตของเงิน แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 40–50 ปี ควรทยอยลดความเสี่ยงลง โดยแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เงินสำหรับค่าใช้จ่ายประจำ เงินลงทุนเสี่ยงต่ำ และเงินลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว

นอกจากนี้ เรายังสามารถเลือกใช้กองทุนช่วยออมที่วางใจได้ เช่น RMF, SSF หรือกองทุนแบบ Target-Date Fund ซึ่งออกแบบมาเพื่อการออมระยะยาวโดยเฉพาะ และอย่าลืมทบทวนแผนการเงินอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อปรับให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ และเป้าหมายชีวิตในแต่ละปีที่เปลี่ยนไปด้วยนะครับ

4. ไม่ใช่แค่เงิน แต่รวมถึงคุณภาพชีวิต
แม้การเงินจะสำคัญ แต่สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีความสุขให้พ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็น ปรับปรุงบ้านให้เหมาะกับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ ลดระยะห่างระหว่างขั้นบันได ติดราวจับ เพิ่มแสงสว่าง สนับสนุนกิจกรรมที่ทำให้สุขภาพกายและใจแข็งแรง เช่น ออกกำลังกายเบา ๆ ทำงานอดิเรก หรือเดินทางท่องเที่ยว ดูแลความสัมพันธ์ในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงหมั่นพูดคุยกับพวกเขาอย่างใกล้ชิดอยู่เสมอ

6.-เตรียมดูแลพ่อ-แม่วัยเกษียณ-มีค่าใช้จ่ายหลักอะไรบ้าง.jpg

เริ่มเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ในอนาคตก็มีแต่ความสบายใจ
การดูแลพ่อแม่ยามชราไม่ใช่เพียงเรื่องของ ‘เงิน’ แต่เป็นหมายถึงทุก ๆ เรื่องในการใช้ชีวิต ทั้งการเงิน สุขภาพ และความรักในครอบครัว หากเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะด้วยการออม การลงทุน หรือการจัดบ้านให้เหมาะสม ก็จะช่วยให้ทั้งพ่อแม่และตัวเราใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจนั่นเองครับ
คลิกชมบ้านรีโนเวท.png
Underline.png

FB1.png   IG2.png   YT3.png   LINE4.png   TIKTOK5.png

Underline - Contact.png
02-494-9187




เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาที่ท่านอาจสนใจ เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น นโยบายคุกกี้และนโยบายความเป็นส่วนตัว