จากบทความเดิมที่เปรียบเทียบความคุ้มค่าระหว่างบ้านใหม่กับบ้านมือสองรีโนเวท ยังมีปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งด้านที่ควรพิจารณา นั่นคือเรื่องของสินเชื่อบ้าน ซึ่งมีความแตกต่างระหว่างการขอสินเชื่อบ้านใหม่กับบ้านมือสอง โดยข้อมูลต่อไปนี้อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลทางการของธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ความแตกต่างเรื่องสินเชื่อที่ควรรู้
1. วงเงินอนุมัติ
บ้านใหม่มือหนึ่ง
- สินเชื่อบ้านใหม่มีโอกาสได้รับวงเงินสูงสุดถึง 100% ของราคาประเมินหรือตามรายการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง (BOQ)
บ้านมือสองรีโนเวทใหม่
- สินเชื่อบ้านมือสองส่วนใหญ่ได้รับวงเงินไม่เกิน 80-90% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย (ธนาคารมักเลือกราคาที่ต่ำกว่า)
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มีโครงการสินเชื่อบ้านมือสองที่อาจให้วงเงินสูงถึง 100% ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติผู้กู้
2. การผ่อนชำระดาวน์
บ้านใหม่มือหนึ่ง
- สามารถผ่อนดาวน์ได้ตามข้อตกลงกับโครงการ มักมีระยะเวลาผ่อนดาวน์ตั้งแต่ 6 เดือน - 1 ปี หรือมากกว่า
บ้านมือสองรีโนเวทใหม่
- ไม่สามารถผ่อนดาวน์ได้ ต้องเตรียมเงินดาวน์ประมาณ 5-20% ของราคาซื้อขายไว้ล่วงหน้า
- ต้องชำระเงินดาวน์ให้แก่ผู้ขายในวันทำสัญญาและโอนกรรมสิทธิ์
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ควรเตรียมไว้
ค่าธรรมเนียมและภาษี
- ค่าธรรมเนียมการโอน 2% (แบ่งกันชำระตามตกลง)
- ค่าอากรแสตมป์ 0.5% หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% (มักเป็นภาระของผู้ขาย)
- ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร (มักเป็นภาระของผู้ขาย)
- ค่าจดจำนอง 1% ของมูลค่าจำนอง (มักเป็นภาระของผู้ซื้อ)
ค่าซ่อมแซมและตกแต่ง
บ้านใหม่มือหนึ่ง
- อาจมีค่าต่อเติม ค่าเฟอร์นิเจอร์ และค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า
- บางโครงการอาจมีโปรโมชั่นแถมเฟอร์นิเจอร์
บ้านมือสองรีโนเวทใหม่
- ควรเตรียมเงินสำรองสำหรับการปรับปรุงหรือซ่อมแซมเพิ่มเติม
- หากเป็นบ้านมือสองที่รีโนเวทมาแล้ว อาจเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้น้อยกว่า แต่ควรตรวจสอบคุณภาพของงานรีโนเวท
ทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA
- ทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA (Non-Performing Assets) คือบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ถูกธนาคารยึดมาและนำมาขายต่อ มักมีราคาย่อมเยากว่าท้องตลาด
- อาจได้รับสิทธิพิเศษและความสะดวกในการขอสินเชื่อจากธนาคารเจ้าของทรัพย์
- ต้องระวังปัญหาเรื่องการฟ้องขับไล่ หากยังมีผู้อาศัยเดิมอยู่ในบ้าน
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างบ้านใหม่มือหนึ่งกับบ้านมือสองที่รีโนเวทใหม่ พบว่าบ้านใหม่มือหนึ่งสามารถขอวงเงินกู้ได้สูงสุดถึง 100% ขณะที่บ้านมือสองมักจะมีการอนุมัติอยู่ที่ 80-90% (แต่บางกรณีอาจได้ถึง 100%)
คำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจ
1. ประเมินสถานะทางการเงิน พิจารณาว่ามีเงินก้อนสำหรับดาวน์มากน้อยเพียงใด หากมีเงินก้อนน้อย บ้านใหม่ที่สามารถผ่อนดาวน์ได้อาจเหมาะกว่า
2. ทำเลที่ตั้ง ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยอันดับต้นในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยบ้านมือสองมักมีทำเลให้เลือกหลากหลายกว่า ทั้งในตัวเมืองและชานเมือง
3. ระยะเวลา หากต้องการเข้าอยู่เร็ว บ้านมือสองรีโนเวทพร้อมอยู่อาจเหมาะกว่า
4. ปรึกษาสถาบันการเงิน ควรสอบถามข้อมูลจากหลายธนาคารเพื่อเปรียบเทียบเงื่อนไข อัตราดอกเบี้ย และโปรโมชั่นพิเศษ
5. ตรวจสอบคุณภาพ ทั้งบ้านมือหนึ่งและบ้านมือสอง ควรตรวจสอบคุณภาพงาน และสภาพโครงสร้างอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ
ฉะนั้น การเลือกระหว่างบ้านใหม่ และ บ้านมือสองรีโนเวท ไม่มีคำตอบตายตัวว่าอย่างไหนดีกว่ากัน แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการ ไลฟ์สไตล์ และสถานะทางการเงินของแต่ละบุคคล การเข้าใจความแตกต่างด้านสินเชื่อจะช่วยให้การตัดสินใจซื้อบ้านเป็นไปอย่างรอบคอบและเหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณมากที่สุด
