6 โรคสุดฮิต ที่ชาวออฟฟิศต้องระวัง
ด้วยชีวิตที่เร่งรีบของ วัยทำงาน ทั้งต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปทำงาน เลิกงานก็ยังต้องรีบกลับบ้านพักผ่อน เพื่อเตรียมตัวทำงานในวันต่อๆ ไป จนแทบไม่มีเวลาแม้แต่จะออกกำลังกาย ด้วยชีวิตที่เร่งรีบจนสะสมให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย วันนี้ “บางกอก แอสเซทฯ” จะพาไปดูว่าโรคยอดฮิตของ ชาวออฟฟิศ มีอะไรบ้าง จะได้หาทางป้องกันได้ทันเวลา
1. กรดไหลย้อน

สาเหตุของโรคนี้ คือ ความผิดปกติของกระเพาะอาหาร ที่ทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหานานกว่าปกติและเพิ่มการไหลย้อนของกรดไปสู่หลอดอาหารมากขึ้น เพราะ ชาวออฟฟิศ วัยทำงาน ต้องแข่งกับเวลาที่เร่งรีบจึงมักเลือกทานอาหารจานด่วน ที่มีคุณประโยชน์น้อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารประเภทไขมันสูงทำให้หูรูดหลอดอาหารคลายตัวและกระเพาะอาหารบีบตัวลดลง แจึงเป็นที่มของโรคกรดไหลย้อนได้นั่นเอง
2. ความดันโลหิตสูง

โรคนี้ถือเป็นโรคน่ากลัวมาก เพราะเป็นภัยเงียบที่แฝงอยู่ โดยส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการแต่คนส่วนใหญ่มักจะละเลย เช่น อาการวิงเวียน ปวดศีรษะหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนอื่นๆ ได้ สาเหตุของโรคนี้มาจากความผิดปกติของระบบประสาท ไต หัวใจ และหลอดเลือด ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อความดันโลหิตนั้นก็มีมากมาย ทั้งอายุที่เพิ่มขึ้น จิตใจ อารมณ์ และความเครียด ซึ่งล้วนแล้วแต่มาจากการทำงานเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับบางคนก็เกิดจากกรรมพันธุ์ได้เช่นกัน
3. นอนไม่หลับ

สาเหตุของโรคนี้มีได้หลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสภาพแวดล้อมซึ่งแสดงผลทางร่างกาย คือ การเจ็บป่วย หรือมีไข้ต่างๆ และมีผลทางจิตใจ คือความเครียด ความวิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคไบโพล่าร์ ซึ่งบางครั้งอาการเหล่านี้ก็มาจากความกดดัน หรือความเครียดสะสมจากการทำงาน จึงเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เรานอนไม่หลับ
4. ปวดหลัง

โรคฮิตที่สามารถเป็นกันได้ทุกเพศทุกวัย แต่ปัจจุบันนี้ พบมากขึ้นในวัยทำงานหรือที่ชอบเรียกกันว่าอาการ Office Syndrome ซึ่งหากละเลย และไม่รักษาก็จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างรุนแรง ซึ่งสาเหตุของโรคนี้ส่วนใหญ่มาจากการเคลื่อนไหวร่างกาย และการใช้หลังในท่าทีที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานานเช่น คนที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ และคนที่ยกของหนักบ่อยๆส่วนใหญ่จะมีอาการปวดที่หลัง หรืออาจมีอาการปวดหลังร้าวมาที่สะโพกหรือขานอกกจากนี้อาจมีอาการปวดร้าวลงขาเมื่อต้องเดินในระยะทางสั้นๆ และอาการแย่ลงเมื่อยืนขึ้นนั่งลง เคลื่อนไหวบางท่า หรือตอนกลางคืน และอาจรู้สึกชาหรือเสียวปลาบส่วนใดส่วนหนึ่งตามร่างกายซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ควรที่จะเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์เพื่อหาทางรักษา
5. โรคอ้วน

ในประเทศไทยก็มีอัตราโรคอ้วนเพิ่มสูงมากขึ้น ดูได้จากสถิติผู้ป่วยที่สูงเป็นลำดับที่ 2ของกลุ่มประเทศอาเซียน รองจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งสาเหตุก็มาจากการทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลมากเกินไป อีกทั้งการทานอาหารที่ไม่ครบ 5 หมู่ หรือการทาน Fast Food บ่อยๆ ขนมหวาน ขนมกรุบกรอบต่างๆ และที่สำคัญที่สุด คือ ขาดการออกกำลังกายจนทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและกลายเป็นโรคอ้วนในที่สุด
6. ไมเกรน

อาการปวดหัวไมเกรนมีอาการค่อนข้างชัดเจน คือ การปวดหัวข้างเดียว ปวดหัวตุบๆเป็นจังหวะ ปวดหัวจนไม่เป็นอันทำอะไร และบางครั้งมีอาการอาเจียนร่วมด้วย ปัจจัยที่กระตุ้นโรคไมเกรนมีหลายอย่าง คือ ความเครียดจากการทำงาน แสงแดดจ้า การอดนอน หรือนอนดึก แม้แต่อาหารก็เป็นตัวกระตุ้นไมเกรนได้เช่นกันไม่ว่าจะเป็น แอลกอฮอล์ ช็อกโกแลต ชีส หรือแม้กระทั่งยาคุมกำเนิด
ขอบคุณข้อมูลจาก : krungthai-axa.co.th
>> เลือกชมได้ที่นี่คลิก <<
ผู้ที่สนใจฝากขาย บ้านมือสอง ในกรุงเทพฯ บ้านมือสองนนทบุรี และปริมณฑล
สามารถติดต่อได้ที่นี่กรอกข้อมูลบ้าน และช่องทางติดต่อกลับ >> คลิกที่นี่ <<