15 ต.ค. นี้ คมนาคมไฟเขียวขึ้นราคาค่า Taxi Meter
แม้เพิ่งจะได้รับข่าวดีจากนโยบายลดภาระค่าครองชีพประชาชนของกระทรวงคมนาคม ที่ให้ศึกษาลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน แต่คนกรุงที่ใช้บริการรถแท็กซี่เป็นประจำก็ต้องเตรียมตัวรับภาระค่าเดินทางที่มากขึ้น เพราะวันที่ 15 ต.ค. นี้ ค่าแท็กซี่จะปรับราคาขึ้นตามระยะทางแล้ว
เนื่องจากรถ Taxi Meter ได้รับการอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารมาตั้งแต่ปี 2557 และเพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะ (Taxi) ซึ่งในปัจจุบันต้องแบกรับต้นทุนการเดินรถ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถเพิ่มขึ้น เช่น ค่าครองชีพ ราคารถ อะไหล่รถ ค่าจ้างแรงงาน และค่าเชื้อเพลิง ทำให้ผู้ประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้างมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นค่าโดยสาร โดยมีรายละเอียด ดังนี้
เนื่องจากเห็นว่า รถแท็กซี่ที่ให้บริการในท่าอากาศยานจะมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมากกว่ารถ Taxi ที่ให้บริการทั่วไป ทั้งด้านต้นทุนที่เกิดจากการวิ่งรถเปล่าจากตัวเมืองไปรอให้บริการที่สนามบิน ค่าใช้จ่ายที่ผู้ขับรถต้องจ่ายให้สนามบิน รวมถึงค่าเสียโอกาสที่ผู้ขับรถจะได้รับผู้โดยสารทั่วไป จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าโดยสารขึ้น ดังนี้
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยังเห็นด้วยกับการปรับขยายอายุรถแท็กซี่ จากเดิม 9 ปี เป็น 12 ปี แต่กำหนดเงื่อนไขว่า รถทุกคันจะต้องผ่านมาตรฐานตามที่กำหนด ซึ่งกรมการขนส่งฯ จะตรวจสอบสภาพรถทุก 3 เดือน หากพบว่ารถคันใดไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจะต้องหยุดเดินรถทันที ไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ
เมื่อมีนโยบายปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารเช่นนี้ ผู้โดยสารก็ย่อมหวังให้ผู้ขับขี่แท็กซี่ทุกคนบริการอย่างเป็นมิตร ไม่ปฏิเสธการรับผู้โดยสาร คำนึงถึงความปลอดภัย และไม่ก่ออันตรายกับตัวผู้โดยสารเอง ซึ่งถ้าปรับการบริการให้ดีขึ้น ก็ย่อมเป็นที่ยอมรับแก่ประชาชนผู้ใช้บริการอย่างแน่นอน