ทำความรู้จักกับโคมไฟดาวน์ไลท์ สำหรับบ้านโมเดิร์น สไตล์บ้านบางกอก
หากใครที่ติดตามเป็นลูกเพจบ้านบางกอกมานาน ก็จะอาจจะสงสัยว่าทำไมโคมไฟเพดานที่เรานิยมใช้ในการให้แสงสว่างในห้องต่างๆ ของบ้านตกแต่งบ้านใหม่ มักจะเป็น "โคมไฟดาวน์ไลท์" จากแนวคิดการเพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในทุกด้าน เราจึงใส่ใจทุกรายละเอียด และคิดจากการใช้ชีวิตจริง ทั้งในด้านการอยู่อาศัย และการใช้งาน ซึ่งวันนี้บ้านบางกอกจึงนำข้อมูลของโคมไฟดาวน์ไลท์ที่เรามักนำมาตกแต่ง บ้านรีโนเวท ว่ามีประโยชน์และข้อดีอย่างไรบ้าง
โคมไฟแบบดาวน์ไลท์ คืออะไร ?
โคมดาวน์ไลท์ ตามชื่อของมันคือ "Downlight Luminair" เป็นโคมไฟที่จะให้แสงสว่างแบบ "ส่องลง" ทำให้แสงสว่างถูกกระจายตัวอยู่ด้านล่าง สามารถเป็นการแก้ไขข้อบกพร่องของห้องหรือเป็นการพรางบางมุมที่เป็นมุมอับให้กลืนหายไปกับความมืด ทำให้บรรยากาศภายในของห้องเกิดเป็นความสวยงามที่แตกต่างกัน นิยมในการนำมาใช้ตามห้องต่างๆ ภายในบ้าน ซึ่งให้ประโยชน์โดยการช่วยเติมแสงสว่างให้กับห้องได้มากพอ ไม่กินพื้นที่ ห้องที่มีพื้นที่จำกัดจึงไม่ต้องเป็นกังวลกับปัญหา ด้วยความกะทัดรัด และยังประหยัดพลังงาน จึงกลายเป็นทางเลือกที่ถูกนำมาใช้เป็นโคมไฟสำหรับบ้านยุคโมเดิร์น ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูสบายตามากเป็นพิเศษ และยังทำให้บ้านดูสวยดูแพงขึ้นอย่างทันที!
ประโยชน์ของโคมไฟดาวน์ไลท์
จะช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น ทำให้ห้องดูผ่อนคลาย และมีมิติ เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ห้องที่ดูมืดทึบจะดูสว่างมากกว่าปกติ แต่จะไม่เป็นการสว่างแบบจ้าจนแสบตา จึงนิยมใช้ภายในห้องนั่งเล่นและห้องนอน แต่บางครั้งก็ยังถูกนำไปใช้ในห้องครัว โดยจะใช้หลอดไฟที่มีค่าแสงสูงกว่าปกติ เพื่อให้สามารถมองเห็นรายละเอียดต่างๆ ของห้องได้ชัดเจน
ประเภทของโคมไฟแบบดาวน์ไลท์ที่ควรรู้จัก
ตามร้านค้าทั่วไป เราจะเห็นโคมไฟดาวน์ไลท์อยู่ 4 ประเภทหลัก ที่ได้รับความนิยมในการซื้อหามาใช้งาน ซึ่งได้แก่
1. โคมไฟดาวน์ไลท์ แบบฝังใต้ฝ้า
ตัวโคมไฟจะฝังในฝ้าทั้งหมด จะโผล่ให้เห็นแค่ส่วนหน้าโคมที่แนบเสมอกับแผ่นฝ้า เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมนำมาใช้งานมากที่สุดตามบ้าน ร้านอาหาร และตามโรงแรม
ภาพจาก www.bangkokassets.com
ภาพจาก www.bangkokassets.com
ภาพจาก www.bangkokassets.com
2. โคมไฟดาวน์ไลท์ แบบติดลอย
เป็นโคมไฟที่พบตาม บ้าน ที่ไม่มีโครงฝ้า เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วจะมองเห็นตัวโคมไฟอย่างชัดเจน การออกแบบของโคมไฟมักจะอยู่ในรูปแบบทรงกระบอก
ภาพจาก www.bangkokassets.com
ภาพจาก www.bangkokassets.com
ภาพจาก www.bangkokassets.com
3. โคมไฟดาวน์ไลท์ แบบแขวน
การติดตั้งจะมีสายห้อยลงมาจากฝ้าเพดาน และดวงโคมจะมีการออกแบบด้วยดีไซน์ที่เก๋ไก๋ ดังนั้นมันจึงมีดีไซน์ให้เลือกหลากหลาย การเลือกซื้อนอกจากเพื่อช่วยให้แสงสว่างแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความสวยงามร่วมด้วย ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีเพดานต่ำ
ภาพจาก www.bangkokassets.com
ภาพจาก www.bangkokassets.com
4.ดาวน์ไลท์ดวงโคมแบบกึ่งฝังกึ่งลอย (สปอตไลท์)
ทำให้ฝ้าเพดานมีลูกเล่นที่มากยิ่งขึ้น ดูแปลกตาและลดข้อจำกัดของพื้นที่ใต้ฝ้าลงได้ หรือจะใช้แบบไฟราง ที่สามารถปรับมุมได้อย่างอิสระ หลายคนคงเคยเห็นว่าไฟแบบรางส่วนใหญ่นิยมใช้ในพิพิธภัณฑ์หรือ Gallery ศิลปะที่ช่วยเน้นให้ชิ้นงานจัดแสดงดูมีพลังมากขึ้น ไฟชนิดนี้ได้รับความนิยมจาก บ้าน ที่สะสมงานศิลปะ ทั้งงานบนผืนผ้าใบประดับผนัง หรืองานประติมากรรมที่มีรายละเอียดส่วนเว้าส่วนโค้งที่สวยงาม
ภาพจาก www.bangkokassets.com
แต่ในปัจจุบันคนส่วนมากได้หันมาใช้ ดาวน์ไลท์ LED ถึงแม้ว่าโคมดาวน์ไลท์ LED ราคาจะแพงกว่าดาวน์ไลท์แบบเดิม แต่สามารถประหยัดค่าไฟและให้แสงสว่างที่มากกว่าเดิม ซึ่งดาวน์ไลท์ LED จะแตกต่างจากดาวน์ไลท์แบบเดิมตรงที่ชิปเม็ดที่ให้แสง โดยทั่วไปจะเป็นดาวน์ไลท์ชนิดสี่เหลี่ยมและชนิดกลม ซึ่งมีขนาดมาตรฐานตั้งแต่ 2.5 นิ้ว 4 นิ้ว 6 นิ้ว จนใหญ่สุดที่ใช้งานกับฝ้าเพดานที่สูงมากๆ อาจถึง 10 นิ้ว เพราะความสูงของฝ้าก็ก็มีผลต่อความเข้มและการกระจายออกของแสงไฟ เพราะถ้าติดในฝ้าเตี้ยจะทำให้แสงสว่างส่องตรงจุดและจะเป็นในมุมแคบ แต่ถ้าฝ้าสูงก็จะให้แสงสว่างเป็นมุมกว้าง และความเข้มของแสงจะลดลง
ภาพจาก www.bangkokassets.com
ภาพจาก www.bangkokassets.com
ภาพจาก www.bangkokassets.com
