สินเชื่อมาแรง!! สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษ กลุ่มบุคลากรภาครัฐและกลุ่มสวัสดิการไม่มีเงินฝากเตรียมเฮลั่นกันได้เลย!!
โครงการเงินกู้สวัสดิการเพื่อที่อยู่อาศัย (ประเภทไม่มีเงินฝาก) เป็นการให้บริการเงินกู้ของธนาคารฯ เพื่อส่งเสริมให้ ข้าราชการ/พนักงาน ของหน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/ธุรกิจเอกชน ได้มีโอกาสซื้อ ที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองสะดวกขึ้น และ ได้ รับสิทธิพิเศษมากกว่าการกู้แบบบุคคลธรรมดาทั่วไป เพียงแต่หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/ธุรกิจเอกชนทำข้อตกลงกับธนาคารฯ และรับรองผู้กู้ซึ่งเป็น ข้าราชการ/พนักงาน โดยหักเงินเดือนส่งให้กับธนาคารฯ ตามงวดผ่อนชำระ
สิทธิพิเศษของข้าราชการ/พนักงานที่จะได้รับ
1. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้โครงการสวัสดิการไม่มีเงินฝาก
อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างธนาคารกับหน่วยงาน
* โปรดตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยล่าสุดอีกครั้ง
2. วงเงินให้กู้ตามหลักประกัน
(2.1) กรณีได้รับการคัดเลือกให้ 100%
- กรณีได้รับการคัดเลือกให้100% หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/ธุรกิจเอกชน ให้คิดหลักประกันตามเกณฑ์ดังนี้
- ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน แต่ ไม่เกิน 100% ของราคาซื้อขาย ในกรณี
- ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซมอาคาร
- ซื้ออาคารพาณิชย์ (ต้องมีพื้นที่พักอาศัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 30)
- ซื้อห้องชุด
- ไม่เกิน 80% ของราคาประเมิน ในกรณี
- หลักประกันอยู่ในระวางเวนคืน ที่ยังไม่ได้กำหนดแนวเขตเวนคืน
- ไม่เกิน 70% ของราคาประเมิน ในกรณี
- รถยนต์เข้าไม่ถึงหลักประกัน (ยกเว้นโครงการจัดสรรของการเคหะแห่งชาติ)
- หรือหลักประกันอยู่ในแนวเขตเวนคืน
- หรือสาธารณูปโภคไฟฟ้าห่างจากหลักประกันเกิน 100 เมตร และมีน้ำใช้ตามสภาพท้องถิ่น
- กรณีได้รับการคัดเลือกให้100% เป็นหน่วยงานธุรกิจเอกชน และผู้ใช้สิทธิสวัสดิการทำงานในบริษัทนั้นไม่ถึง 1 ปี ให้คิดหลักประกันตามเกณฑ์ ดังนี้
- ไม่เกิน 90% ของราคาประเมินหลักประกัน แต่ ไม่เกิน 90% ของราคาซื้อขาย ในกรณี
- ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซมอาคาร
- ซื้ออาคารพาณิชย์ (ต้องมีพื้นที่พักอาศัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 30)
- ไม่เกิน 80% ของราคาประเมิน แต่ไม่เกินร้อยละ 80% ของราคาซื้อขาย ในกรณี
- ไม่เกิน 60% ของราคาประเมิน ในกรณี
- หลักประกันอยู่ในระวางเวนคืนที่ยังไม่ได้กำหนดแนวเขตเวนคืน
- ไม่เกิน 50% ของราคาประเมิน ในกรณี
- รถยนต์เข้าไม่ถึงหลักประกัน(ยกเว้นโครงการจัดสรรของการเคหะแห่งชาติ)
- หรือหลักประกันอยู่ในแนวเขตเวนคืน
- หรือสาธารณูปโภคไฟฟ้าห่างจากหลักประกันเกิน 100 เมตร และมีน้ำใช้ตามสภาพท้องถิ่น
(2.2) กรณีปกติ
- กรณีปกติ หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/ธุรกิจเอกชน ให้คิดหลักประกันตามเกณฑ์ดังนี้
- ไม่เกิน 90% ของราคาประเมินหลักประกัน แต่ไม่เกิน 90% ของราคาซื้อขาย ในกรณี
- ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซมอาคาร
- ซื้ออาคารพาณิชย์ (ต้องมีพื้นที่พักอาศัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 30)
- ไม่เกิน 80% ของราคาประเมิน แต่ไม่เกินร้อยละ 80% ของราคาซื้อขาย ในกรณี
- ไม่เกิน 70% ของราคาประเมิน ในกรณี
- หลักประกันอยู่ในระวางเวนคืน ที่ยังไม่ได้กำหนดแนวเขตเวนคืน
- ไม่เกิน 60% ของราคาประเมิน ในกรณี
- รถยนต์เข้าไม่ถึงหลักประกัน (ยกเว้นโครงการจัดสรรของการเคหะแห่งชาติ)
- หรือหลักประกันอยู่ในแนวเขตเวนคืน
- หรือสาธารณูปโภคไฟฟ้าห่างจากหลักประกันเกิน 100 เมตร และมีน้ำใช้ตามสภาพท้องถิ่น
- กรณีปกติ หน่วยงานธุรกิจเอกชน และผู้ใช้สิทธิสวัสดิการ ทำงานในบริษัทนั้นไม่ถึง 2 ปี ให้คิดหลักประกันตามเกณฑ์ ดังนี้
- ไม่เกิน 85% ของราคาประเมินหลักประกัน แต่ ไม่เกิน 85% ของราคาซื้อขาย ในกรณี
- ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซมอาคาร
- ซื้ออาคารพาณิชย์ (ต้องมีพื้นที่พักอาศัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 30)
- ไม่เกิน 80% ของราคาประเมินแต่ ไม่เกินร้อยละ 80% ของราคาซื้อขาย ในกรณีซื้อห้องชุดราคาเกินกว่า 1 ล้านบาท ต่อหน่วย
- ไม่เกิน 70% ของราคาประเมินแต่ ไม่เกินร้อยละ 70% ของราคาซื้อขาย ในกรณีซื้อห้องชุดราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ต่อหน่วย
- ไม่เกิน 60% ของราคาประเมิน ในกรณี
- หลักประกันอยู่ในระวางเวนคืนที่ยังไม่ได้กำหนดแนวเขตเวนคืน
- ไม่เกิน 50% ของราคาประเมิน ในกรณี
- รถยนต์เข้าไม่ถึงหลักประกัน(ยกเว้นโครงการจัดสรรของการเคหะแห่งชาติ)
- หรือหลักประกันอยู่ในแนวเขตเวนคืน
- หรือสาธารณูปโภคไฟฟ้าห่างจากหลักประกันเกิน 100 เมตร และมีน้ำใช้ตามสภาพท้องถิ่น
3. ขั้นตอนการทำข้อตกลง
- หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/ธุรกิจเอกชนทำหนังสือแจ้งความประสงค์ในการขอ เข้าร่วมโครงการ เงินกู้สวัสดิการเพื่อที่อยู่อาศัยถึงธนาคารฯ (สำหรับธุรกิจเอกชนในหนังสือแจ้งความประสงค์ขอให้ระบุ เกี่ยวกับประเภทของธุรกิจที่ดำเนินการอยู่และจำนวนพนักงานพร้อมทั้งแนบสำเนา หนังสือรับรองการ จดทะเบียนนิติบุคคลมาด้วย) ธนาคารฯจะพิจารณาและแจ้งผลการอนุมัติให้ทราบพร้อมทั้งจัดส่งข้อ ตกลงให้เพื่อดำเนินการต่อไป
4. ประเภทการกู้
- เพื่อซื้อที่ดินและอาคาร หรือห้องชุดเป็นที่อยู่อาศัยของตนเอง
- เพื่อซื้อหรือปลูกสร้างอาคารเป็นที่อยู่อาศัยของตนเอง
- เพื่อขยายต่อเติมหรือซ่อมแซมอาคารอันเป็นที่อยู่อาศัยของตนเอง
- เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินและหรืออาคาร หรือห้องชุดอันเป็นที่อยู่อาศัยของตนเอง
- เพื่อชำระเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
- เพื่อซื้อหรือจัดให้มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย
5. หน้าที่ของหน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/ธุรกิจเอกชน
- เป็นผู้พิจารณาคัดเลือก ข้าราชการ/พนักงานให้ใช้สิทธิในการกู้เงิน
- เป็นผู้หักเงินเดือน ข้าราชการ/พนักงาน เพื่อส่งชำระหนี้เงินกู้ให้แก่ธนาคารฯ
- แจ้งให้ธนาคารฯ ทราบ เมื่อข้าราชการ/พนักงาน พ้นสภาพจากการ เป็นข้าราชการ/พนักงาน
6. ระยะเวลาให้กู้
- ระยะเวลากู้ไม่เกิน 30 ปี
- อายุผู้กู้ เมื่อรวมกับจำนวนปีที่ขอกู้จะต้องไม่เกิน 70 ปี
7. เอกสารประกอบการกู้เงิน
- คำขอกู้เงิน
- เอกสาร (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม)
- เพิ่มเติม หนังสือรับรองเิงินเดือนตามแบบฟอร์มสวัสดิการ
- หากมีผู้กู้ร่วม ขอให้ผู้กู้ร่วมมายื่นคำขอกู้พร้อมหลักฐานแสดงรายได้และเอกสารส่วนตัวของแต่ละท่าน
8. ค่าใช้จ่ายในการกู้
- ค่าตรวจสอบผลงานการก่อสร้างต่อเติมอาคาร หรือซ่อมแซมอาคารครั้งละ 800 บาท
- ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมจำนอง อัตราจ้างเหมา รายละ 1,000 บาท (หรือตามที่ธนาคารเเห็นควร)
- ค่าใช้จ่าย ณ สำนักงานที่ดิน
- ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนอง 1% ของวงเงินกู้
9. ติดต่อขอรายละเอียด
- ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ อาคาร 2 ชั้น 12 เลขที่ 63 ถนนพระรามที่ 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทรศัพท์ 0-2645-9000
ที่มา : ธนาคารอาคารสงเคราะห์